ชื่อ | ชงโค |
ชื่อพื้นเมือง | ชงโค (กลาง) ; เสี้ยวดอกแดง (เหนือ) ; ผักเสี้ยว (เหนือ) ; กะเฮอ , สะเซี่(กะเหรี่ยง - แม่ฮ่องสอน) ; เสี้ยวหวาน (แม่ฮ่องสอน) |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Bauhinia purpurea L |
ชื่อวงศ์ | LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE |
ชื่อสามัญ | LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE |
สรรพคุณ | ใบ นำมาตากแดด ใช้ชงเป็นชาดื่ม นำมาขยี้ และผสมน้ำเล็กน้อยใช้ประคบรักษาแผล และช่วยในการห้ามเลือดใบอ่อนใช้เคี้ยวเพื่อลดกลิ่นปาก ดอก นำมาต้มน้ำดื่ม ช่วยลดอาการไอ ทำให้ชุ่มคอ เปลือกลำต้นนำมาต้มน้ำดื่ม ใช้รักษาอาการท้องเสีย และอาหารเป็นพิษ น้ำต้มจากเปลือกใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ราก นำมาต้มน้ำดื่ม ใช้เป็นยาขับลม น้ำต้มจากรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ |
ลักษณะ | ลำต้น ชงโค/เสี้ยว เป็นไม้ยืนต้นประเภทพลัดใบ มีลำต้นตั้งตรง ลำต้นสูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งเป็นน้อย เปลือกลำต้นมีสีเทา ผิวเปลือกขรุขระ ใบชงโค เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แทงออกเป็นเดี่ยวสลับข้างกันบนข้อกิ่ง ใบมีสีเขียวอ่อนถึงเขียวสด ใบมีลักษณะค่อนข้างมน แผ่นใบ และขอบใบเรียบ โคนใบ และส่วนปลายจะหยักโค้งมนตรงกลาง ทำให้ใบแลดูคล้ายใบแฝดหรือคล้ายรูปไต ใบกว้างประมาณ 8 เซนติเมตร ยาวประมาณ 12 เซนติเมตร ใบอ่อนกางแผ่น้อยทำให้แลดูคล้ายปีกผีเสื้อ ส่วนการพลัดใบจะเริ่มพลัดใบไปเรื่อยตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม และจะเริ่มแทงยอด และใบอ่อนเมื่อเข้าสู่ต้นฤดูฝนเดือนเมษายน-พฤษภาคม หลังจากนั้น จะเริ่มแทงช่อดอกออกมาทีหลัง และเริ่มติดฝัก ดอกชงโค เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีรูปร่างคล้ายดอกกล้วยไม้ ดอกออกเป็นช่อบริเวณซอกใบที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 5-10 ดอก ดอกประกอบด้วยกลีบดอก 5 กลีบ สีม่วงอมชมพู ภายในดอกมีเกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมีย เมื่อดอกบาน ดอกจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกสามารถออกได้ตลอดทั้งปี ผลหรือฝัก ชงโคมีลักษณะเป็นฝักคล้ายฝักถั่ว มีรูปร่างแบน ฝักมีขนปกคลุม ฝักมีขนาดกว้าง 1-2 ซม. ยาว 20-25 ซม. ฝักจะเริ่มทยอยติดตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม จนแก่ในช่วงเดือนกันยายน ฝักแก่จะมีสีน้ำตาล และเมื่อแก่จัดจะมีสีดำ |
ประโยชน์ | ดอก ยอดนึ่งจิ้มกับน้ำพริกหรือนำไปแกง ใบ แก้ไอ ดอกและราก ช่วยลดไข้ |
รูปภาพ |
×
×
|
Qr Code และ Gr Code | |
หากคุณยังไม่มี App เหล่านี้สามารถดาวน์โหลด App ได้จากด้านล่างนี้ ดาวน์โหลด : เครื่องอ่านรหัส QRดาวน์โหลด : GR Code Reader ดาวน์โหลด : VAJA สังเคราะห์เสียงไทย (วาจา) |
|
ตำแหน่งของพรรณไม้ | 20.079672,100.308488 |